โรคท้องร่วงในเด็ก ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูก

เด็กเป็นวัยที่เปราะบาง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคุณแม่ถึงประคบประหงมลูกน้อยเป็นอย่างดี คุณแม่บางคนถึงขั้นที่ว่าลูกจะหยิบจับอะไรเป็นอันต้องหยิบยื่นทิชชู่เปียกหรือแอลกอฮอล์ให้ล้างมือก่อนทุกครั้งไป เพราะเกรงว่าลูกจะได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง ท้องเสียได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคท้องเสียในเด็กเป็นภาวะที่มีการถ่ายอุจจาระเหลว

จำนวน 3 ครั้งต่อวัน หรือมากกว่า หรือถ่ายมีมูกเลือดอย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน โดยสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ไวรัสและพยาธิ จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป หากถ่ายติดต่อกันหลายครั้งอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ในช่วงแรก และภาวะขาดสารอาหารในช่วงหลัง ทั้งนี้ เด็กที่มีภาวะขาดน้ำจะมีอาการงอแง กระสับกระส่าย กระหายน้ำ เซื่องซึม เบ้าตาลึก กระหม่อมบุ๋ม ร้องไห้ ไม่มีน้ำตา ริมฝีปากและลิ้นแห้ง ผิวแห้ง และปัสสาวะน้อยลง การรักษาโรคท้องเสียในเด็ก หลักในการรักษาโรคท้องเสียในเด็ก แพทย์จะประเมินเด็กจากภาวะขาดน้ำเพื่อให้สารน้ำทดแทนและให้ยารักษาตามอาการ ในกรณีที่เด็กสามารถรับประทานได้ สามารถให้ยาผงเกลือแร่ (ORS) กลับไปรับประทานที่บ้านได้ แต่ถ้าเด็กอาเจียนมาก หรือมีภาวะขาดน้ำระดับปานกลางถึงมาก แพทย์จะให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำเพื่อรักษาภาวะขาดน้ำและปรับสมดุลเกลือแร่ในเลือด นอกจากนี้จะให้การรักษาตามอาการร่วมด้วย ถ้ามีไข้ ให้รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) ควบคู่กับการเช็ดตัว ถ้าอาเจียนให้รับประทานยาแก้อาเจียน ถ้ามีอาการปวดท้อง ปวดบิด ปวดบีบ ให้ทานยาลดการบีบตัวของลำไส้ กรณีรอบทวารหนักแดงจากอุจจาระเป็นกรด ให้ทายาซิงค์เพส (Zinc paste) เพื่อป้องกันอุจจาระทำให้เกิดการระคายเคืองผิวรอบปากทวารหนัก กรณีมีเกลือแร่ในเลือดผิดปกติต้องให้สารน้ำและเกลือแร่เพื่อปรับสมดุลเกลือแร่ ส่วนการใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป เช่น ในการติดเชื้อบางชนิด ได้แก่ เชื้ออหิวาต์ เชื้อบิด พยาธิบางชนิด

Scroll to Top